สำหรับผู้ป่วโรคเบาหวานนั้น การควบคุมอาหาร และ ใสใจในการกินเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน จะแบ่งอาหารออกเป็น 3 กลุ่ม คือ อาหารที่ห้ามรับประทาน อาหารที่ต้องจำกัดปริมาณในการกิน กอาหารที่รับประทานได้ไม่จำกั
- 1. กลุ่มที่ห้ามรับประทาน
- น้ำตาลทุกชนิด รวมทั้งน้ำผึ้งด้วย
- ขนมหวานและขนมเชื่อมต่างๆ เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ขนมชั้น สังขยา ฯลฯ
- ผลไม้กวน เช่น มะม่วงกวน ทุเรียน สับปะรดกวน เป็นต้น
- น้ำหวานต่างๆ รวมทั้งน้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น ชา กาแฟ
- ผลไม้ที่มีรสหวานจัด เช่น ทุเรียน องุ่น ลำไย มะม่วงสุก ขนุน ละมุด น้อยหน่า ลิ้นจี่ อ้อย ผลไม้แช่อิ่ม หรือเชื่อมน้ำตาลทั้งหลาย
- 2. กลุ่มที่ต้องจำกัดปริมาณ
- อาหารพวกแป้ง ข้าว เผือก มัน ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน บะหมี่ ขนมปัง มักกะโรนี เป็นต้น
- ลดอาหารไขมัน เช่น ขาหมู ข้าวมันไก่ หมูสามชั้น หรืออาหารทอด ตลอดจนไขมันจากพืชบางอย่าง เช่น กะทิ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม
- อาหารสำเร็จรูป หรือ อาหารพิเศษสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เช่น น้ำตาลจากผลไม้
- ผักประเภทหัวที่มีน้ำตาลหรือแป้งมาก เช่น หัวผักกาด ฟักทอง หัวหอม กระเจี๊ยบ ถั่วงอกหัวโต หัวปลี ฯลฯ
- ผลไม้บางอย่าง เช่น ส้ม เงาะ สับปะรด มะละกอ ฝรั่ง กล้วย เป็นต้น
- 3. กลุ่มที่รับประทานได้ไม่จำกัด
- ผักทุกชนิด (ยกเว้นผักประเภทที่มีแป้งมาก ได้แก่ ฟักทอง ถั่วลันเตา แครอท สะเดา)
- อาหารโปรตีนประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ ปู ปลา กุ้ง เนื้อ หมู และโปรตีนจากพืช เช่น ถั่ว เต้าหู้ เป็นต้น
- ข้อพึงปฏิบัติในการควบคุมอาหาร
- 1. เลือกรับประทานอาหาร โดยคำนึงถึงพลังงานที่ได้ตามประเภทของอาหารคือ
- - พลังงานจากคาร์โบไฮเดรท (แป้ง) ประมาณ 55 – 60 %
- - พลังงานจากโปรตีน (เนื้อสัตว์) ประมาณ 15 – 20 %
- - พลังงานจากไขมัน ประมาณ 25 %
- 2. ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ต้องลดปริมาณลง อาจจะเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของที่เคยรับประทาน ห้ามน้ำตาลและของหวานทุกชนิด รวมทั้ง อาหารมันๆ และของทอด
- 3. เลือกรับประทานอาหารที่มีเส้นใยมาก เช่น ข้าวซ้อมมือ ถั่วฝักยาว ถั่วแขก ผักทุกชนิด หรือ เม็ดแมงลัก ซึ่งจะช่วยระบายอ่อนๆ ด้วย
- 4. อย่ารับประทานจุกจิกและไม่ตรงเวลา ถ้าพลาดมื้ออาหารไป อาจเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป
- 5. รับประทานในปริมาณที่่สม่ำเสมอ และคงที่ ไม่ควรรับประทานมากเกินไป หรือน้อยเกินไปในบางมื้อ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดควบคุมได้ยาก
- 6. ผู้ที่เป็นความดันเลือดสูง หรือโรคไตร่วมด้วย ไม่ควรรับประทานอาหารรสเค็มจัด ควรจะลดอาหารเค็ม
- 7. ผู้ป่วยที่รักษาด้วยยาฉีดอินซูลินที่ออกฤทธิ์ยาว เช่น NPH หรือ Monotard ฤทธิ์ยาอยู่ได้นาน 24 ชั่วโมง และออกฤทธิ์สูงสุดในตอนเย็น หรือกลางคืน อาจต้องจัดแบ่งอาหารออกเป็น 4-6 มื้อ โดยเพิ่มอาหารว่างตอนบ่ายและมื้อกลางคืน ควรจัดแบ่งปริมาณให้เหมาะสม ไม่ให้บางมื้อมากเกินไป
- 8. ถึงแม้ระดับน้ำตาลในเลือดปกติแล้ว ผู้ป่วยก็ต้องคุมอาหารตลอดไป
- 9. ขอให้ฝึกปฏิบัติจนเป็นนิสัย แล้วท่านจะรู้สึกว่าไม่ใช่เป็นเรื่องยากในการควบคุมอาหาร
- ปริมาณอาหารที่ควรรับประทานในแต่ละวัน ในกลุ่มอาหารที่ต้องจำกัดปริมาณ
หมวดที่ 1 นม วันละ 2-3 ส่วน นม 1 ส่วน คือ 240 cc. หรือนมผง 1/4 ถ้วยตวง
หมวดที่ 2 เนื้อสัตว์ วันละ 2-3 ส่วน เนื้อสัตว์ 1 ส่วน – 30 กรัม หรือไข่เป็ดไข่ไก่ 50 กรัม
หมวดที่ 3 ข้าวและแป้ง วันละ 6-11 ส่วน - ข้าวสุก 1 ส่วน 1 ทัพพี
- ขนมปังปอนด์ 1 ส่วน 1 แผ่นใหญ่
- ขนมจีน 1 ส่วน 2 จับ
- ก๋วยเตี๋ยว 1 ส่วน 1/2 ถ้วยตวง
- วุ้นเส้นแช่น้ำ 1 ส่วน 1/2 ถ้วยตวง
- หมวดที่ 4 ผักที่ต้องจำกัดปริมาณ วันละ 2-3 ส่วน
ผัก 1 ส่วน เ่ท่ากับ ผักน้ำหนัก 100 กรัม ได้แก่ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ดอกกะหล่ำ หอมหัวใหญ่ ฟักทอง บร๊อคโคลี่ ใบขี้เหล็ก ดอกกุ่ยช่าย ชะอม พริกหวาน สะเดา แครอท สะตอ เห็ด ผักกะเฉด ข้าวโพดอ่อน
หมวดที่ 5 ผลไม้ วันละ 2-4 ส่วน - ตัวอย่าง ผลไม้ 1 ส่วน เท่ากับจำนวน
- กล้วยน้ำว้าสุก, น้อยหน่า 1 ผลเล็ก
- กล้วยหอม, มะม่วง, แอปเปิ้ล 1/2 ผล
- ส้มเขียวหวาน, กล้วยไข่. ละมุด 1 ผล
- เงาะ 3 ผล
- มะละกอ, สับปะรด 6 ชิ้นคำ
- แคนตาลูป 8 ชิ้นคำ
- แตงโม 10 ชิ้นคำ
- ลางสาด, ชมพู่ 5 ผล
- องุ่น 10-12 ผล
- แตงไท, มะพร้าวอ่อน, สตอเบอรี่ 1 ถ้วย
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วย
- ส้มโอ 1/5 ผล
- หมวดที่ 6 ไขมัน ทานให้น้อยที่สุด
ควรเป็นไขมันจากพืช เช่น น้ำมันรำ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันฝ้าย ยกเว้น น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม ควรงด - ที่มา http://kvamsook.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น